ในการดูกราฟโดยใช้ Harmonic เราต้องมีความเข้าใจในเรื่องของ Fibonacci Level กันก่อนครับ
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับตัวเลขฟีโบนาซซี่(Fibonacci Number) กันก่อนครับ
ฟิโบนาซซี่เกิดจากการอนุกรมตัวเลข ตั้งแต่ 0 1 1 2 3 5 8 13 21 34 55 89 .... Nn+1=Nn+Nn-1
ง่ายๆ ก็คือการเอาตัวเลขมาบวกกันไปเรื่อยๆครับ เอาตัวก่อนหน้านั้น บวกตัวเลขปัจจุบัน ก็จะได้ตัวเลขตัวถัดไป บวกกันแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ นี่คือตัวเลขฟีโบนาซซี่
เมื่อเรารู้ที่มาของตัวเลข Fibonacci แล้ว เรามาหาระดับของตัวเลข Fibonacci กันบ้างนะครับ หรือที่เราเรียกกันว่า Fibonacci Level
ผมจะยกตัวตัวเลข Fibonacci มา 4 ตัวนะครับ คือ 21 34 55 89
เราตัวเลขมาหารกันก่อนครับ
21/34 = 0.61764 ปัดเป็น 0.618
21/55=0.3818 ปัดเป็น 0.382
21/89 =0.2359 ปัดเป็น 0.236
34/55=0.618
34/89= 0.382
55/89=0.6179 ปัดเป็น 0.618
นอกจากนี้ก็ยังมี Level 0 0.5 และ 1 มาจาก 0 1 1 2
จะได้
0/1=0
1/1=1
1/2=0.5
และรากที่ 2 ของ 0.618 จะมีค่าเท่ากับ 0.786
และ 1/0.618 = 1.618
รากที่สองของ 1.618 เท่ากับ 1.27
1+1.618 =2.618 หรือ 89/34 = 2.618 หรือ 1.618 *1.618=2.618
และค่าสุดท้ายที่เราใช้กัน 4.236 เท่ากับ 1.618+2.618 จะได้ 4.236
หรือ 89/21 หรือ 1/0.236 จะเท่ากับ 4.236 เช่นกัน
และยังมีอีกหลายค่า ที่นิยมใช้กัน คือ 1.382 และ 0.764
1+0.382=1.382
และ
1-0.236=0.764
เรามาสรุป Fibonacci Level ที่เราใช้กันประจำนะครับ
0 , 0.236 , 0.382 ,0.500, 0.618, 0.786(0.764) , 1.00, 1.27,1.382,1.618,2.618,4.236 ...
นี่คือที่มาของFibonaci Level ครับ ยังไม่ได้ขึ้นเรื่อง Harmonic กันเลย กาแฟหมดไป 1 แก้วครับ วันนี้ว่างๆ มานั่งร้านกาแฟ กราฟไม่วิ่งครับ
Harmonic จะมีทั้งหมด 6 Pattern นะครับ หลักๆที่ใช้กัน หรืออาจจะมีมากกว่านี้ แต่ผมรู้แค่นี้ครับ
มีดังนี้ครับ
1. ABCD Pattern
2.Three Drive Pattern
3.Gartley Pattern
4.Crab Pattern
5.Bat Paatern
6.Butterfly Pattern
เรามาเริ่มที่ รูปแบบแรกกันเลยครับ ABCD Pattern เป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุดครับ ถ้าเป็นขาขึ้น ราคาก็จะทำ Higher High และ Higher Low สูงขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเป็นขาลง ราคาก็จะทำ Lower High และ Lower Low ต่ำลงเรื่อยๆ บางทียังไม่รู้ว่า Lower High ,Higher High มันคืออะไรวะ เข้ามาใน Thaiforexschool
แล้วต้องรู้นะครับ ถ้าไม่รู้นี่ อายเค้านะครับ เด๋วเค้าจะหาว่า แอดมิน Thaiforexschool ไม่สอนหรือไงวะ ฮาาาๆ ...
เริ่มจาก
1.Higher High (HH) คือ จุดสูงสุดใหม่ สูงกว่า จุดสูงสุดเก่า หรือ ที่เราเรียกกันว่า นิวไฮ (New High ) นั่นแหระครับ
2. High Low (HL) คือ จุดต่ำสุดใหม่ สูงกว่า จุดต่ำสุดเก่า
3.Lower High (LH) คือ จุดสูงสุดใหม่ ต่ำกว่า จุดต่ำสุดเก่า
4.Lower Low(LL) คือ จุดต่ำสุดใหม่ ต่ำกว่า จุดต่ำสุดเก่า หรือ ต่ำลงเรื่อยๆ
นอกเรื่องไปอีกละ กลับเข้ามาสู่ Harmonic กันต่อครับ
ABCD Pattern ก็แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบครับ คือ Bullish ABCD และ Bearish ABCD
ดูจากรูปด้านบนนะครับ เป็น Bearish ABCD ครับ ซึ่งตอนแรก เราจะรู้แค่ จากตำแหน่ง A ถึง B แล้วราคาจะลงมาที่ตำแหน่ง C โดยตำแหน่ง C ราคาจะลงมาปรับตัวที่ 61.8% ของระยะจาก AB
และเมื่อราคาลงที่ตำแหน่ง C แล้ว ราคากลับตัว ขึ้นไป เราจะได้ระยะจาก B ถึง C เพื่อหาระยะเป้าหมายของตำแหน่ง D
ระยะ D จะเท่ากับ 127.0% ของระยะ BC
เมื่อได้คำนวนระยะ D ได้แล้ว เราก็รอ Sell แถวๆนี้ได้เลยครับ
การนำไปใช้
1. ดูรูปแบบการกลับตัวของกราฟ จากขาขึ้นกลายเป็นขาลง
2.รูปแบบนี้ จะเป็นการพักตัวจากขาลงครับ เมื่อมันพักตัวรูปแบบนี้ เราก็รอให้พักตัวจนครบ Pattern นะครับ แล้วก็จัด Sell เลยครับ
จากรูปด้านบนครับ เป็น Bullish ABCD เมื่อราคาลงมาตามเป้าหมาย ก็ Buy เลยครับ
การนำไปใช้
1. เป็นการกลับตัวจากแนวโน้มขาลงกลายเป็นขาขึ้น
2.เป็นการพักตัวลงมาของแนวโน้มขาขึ้น เพื่อขึ้นต่อครับ
เด๋วมาต่ออีก 5 รูปแบบครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น